5 เทคนิคปรับราคาอาหาร ขึ้นราคายังไง ให้ลูกค้าแฮปปี้

ในยุคข้าวยากหมากแพงแบบนี้ ร้านอาหารต้องปรับตัวกันอย่างหนัก เพราะราคาวัตถุดิบเพิ่มสูงขึ้นมาก ทั้งเนื้อสัตว์ น้ำมันพืช ผัก ก๊าซหุงต้ม และอื่นๆ อีกสารพัด สิ่งสำคัญที่ทำให้ร้านอาหารดำเนินธุรกิจต่อไปได้คือ กำไรที่ได้จากการขายนั่นเอง แต่ถ้าต้นทุนสูงขึ้น โดยที่ร้านควบคุมหรือลดต้นทุนไม่ได้แล้ว การปรับราคาอาหารเลยกลายเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ แต่จะทำยังไงให้ลูกค้ารู้สึกแฮปปี้อยากมาใช้บริการต่อ freshket เลยอยากมาแบ่งปัน เทคนิคปรับราคาอาหาร ไว้เป็นไอเดียช่วยร้านอาหารร่วมฝ่าวิกฤตของแพงไปด้วยกัน

การปรับราคาอาหารนี่ไม่ใช่ว่าตัดสินใจปุ๊บ แล้วจะทำปั๊บเลยนะ เพราะร้านต้องประเมินก่อนว่าผลกระทบที่ตามมาจะมีอะไรบ้าง เช่น ลูกค้าจะหายหน้าไปเลยมั้ย ยอดขายจะตกหรือเปล่า ร้านอาหารเลยต้องดูหลายๆ ปัจจัยก่อนทำแผนปรับราคา หรือคิดเทคนิคปรับราคาอาหารใหม่ๆ เพื่อคงลูกค้าเดิมเอาไว้ให้ได้มากที่สุด แต่ก่อนจะไปดูทริคดีๆ ที่เรามาแชร์ในวันนี้ freshket ขอชวนทุกคนตามมาดูสถานการณ์วิกฤตของแพงในปัจจุบันก่อน ว่าปัจจัยที่ทำให้ของแพงขึ้นคืออะไร จะได้เห็นภาพสถานการณ์ที่ร้านอาหารต้องแบกรับ และเข้าใจกันมากขึ้น

ทำไมของถึงแพงขึ้น แล้วร้านอาหารต้องเผชิญกับอะไรบ้าง

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เผยสถิติเงินเฟ้อเดือนมีนาคม 2565 ว่ามีอัตราเพิ่มขึ้น 5.73% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงสุดในรอบ 13 ปี นับจากปี 2551 สาเหตุมาจากราคาน้ำมันสูงขึ้น 31% ค่าไฟฟ้าสูงขึ้น 40% รวมถึงราคาอาหาร โดยเฉพาะผักสด เพิ่มเกือบ 10% เนื้อหมู เนื้อไก่ เพิ่มขึ้น 5.74% ไข่ไก่ ข้าวราดแกง อาหารตามสั่ง เพิ่มขึ้น 6% ซึ่งปัญหานี้มาจาก 2 ปัจจัยหลักๆ คือการที่ประเทศไทยมีอัตราฟื้นฟูตัวทางเศรษฐกิจช้ากว่าประเทศอื่นจากเหตุการณ์ COVID-19 และผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ทำให้น้ำมันราคาสูงขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสินค้าปรับตัวตามขึ้นไปด้วย และจากข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. นี้ อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงถึง 7.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน และยังคงมีแนวโน้มว่าจะสูงเพิ่มขึ้นในอีก 3 ไตรมาสข้างหน้า

พอราคาวัตถุดิบเพิ่มสูงขึ้น ร้านอาหารเลยตกอยู่ในสถานการณ์จำเป็น ว่าต้องปรับราคาอาหารให้สูงตาม แต่ปัญหาของแพงยังซ้ำเติมร้านอาหารเข้าไปอีก เนื่องจากธุรกิจร้านอาหารในไทยมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด ทำให้การเพิ่มราคาอาหารกลายเป็นเรื่องยากที่จะทำได้ เพราะลูกค้าสามารถเปลี่ยนใจไปหาร้านทางเลือกใหม่ๆ ที่ถูกและคุ้มมากกว่า ในทางกลับกันถ้าผู้ประกอบการไม่ปรับราคา ร้านก็จะตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก จนอาจถึงขั้นปิดตัวลงได้เลยทีเดียว

แต่จริงๆ แล้วการเพิ่มราคาอาหารไม่ได้เป็นเรื่องแปลกใหม่ หรือเป็นเรื่องที่ห้ามทำในวงการธุรกิจอาหาร แต่โจทย์ที่ร้านอาหารต้องตีให้แตกคือจะเพิ่มราคายังไงให้เกิดประโยชน์ต่อร้าน และลูกค้าไปพร้อมๆ กัน พูดง่ายๆ คือร้านยังได้กำไร ลูกค้าเองก็แฮปปี้พร้อมมาใช้บริการต่อยาวๆ นั่นเอง freshket เลยมีไอเดียมาแชร์ เป็นตัวช่วยให้ร้านค้าผ่านสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้ไปได้ กล้าปรับราคาขึ้นแบบอย่างเหมาะสม แบบไม่ละเลยความรู้สึกของลูกค้า เพื่อให้แฮปปี้กันทั้งสองฝ่าย

เทคนิคปรับราคาอาหาร
วิธีตั้งราคาอาหาร 
ตั้งราคาอาหาร 
ร้านอาหาร

freshket แชร์ 5 เทคนิคปรับราคาอาหารให้ร้านอยู่รอด โดยไม่เสียลูกค้า

freshket มาบอกเล่าไอเดียดีๆ ที่จะช่วยร้านอาหารปรับราคาอาหารได้ เป็นอีกทางที่ช่วยเพิ่มยอดขาย ทั้งยังเพิ่มความประทับใจให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการเราซ้ำๆ ด้วย จะมีอะไรบ้าง เรามาดูกัน

1.เพิ่มคุณค่าของอาหารและบริการ

จะเพิ่มราคาอาหารทั้งที ร้านอาหารก็ต้องมั่นใจว่าเราได้มอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า เพื่อดึงดูดใจลูกค้าให้กลับมาใช้บริการสม่ำเสมอแม้ต้องจ่ายเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้วัตถุดิบดีมีคุณภาพ แต่ก็ประหยัดคุ้มทุน หรือเน้นการบริการที่มีความเอาใจใส่ อย่างการจัดตกแต่งบรรยากาศร้านให้สะอาดและดูดี หรือการจดจำเมนูเด็ดเฉพาะที่ลูกค้าประจำชอบสั่ง ทั้งหมดนี้แสดงถึงความใส่ใจ สร้างความประทับใจให้ลูกค้า ดึงดูดให้กลับมาใช้บริการซ้ำในอนาคต

2.ตั้งราคาร้านอาหารโดยใช้กฎ Rule of Three

เป็นกฎการเซ็ตราคา 3 ระดับสำหรับ 1 เมนู เช่น เมนูข้าวกะเพราหมูแบบธรรมดา ราคาเริ่มต้น 50 บาท ระดับถัดไปอาจเพิ่มเป็นราคา 100 บาท โดยเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้ามากขึ้น เช่น ลูกค้าสามารถเพิ่มวัตถุดิบพิเศษอื่นๆ ในเมนูได้ อย่าง เนื้อวัว เนื้อหมูตุ๋น หรือซีฟู้ด เป็นต้น ราคาของเมนูระดับสุดท้ายอาจปรับเป็น 150 บาทโดยลูกค้าสามารถเลือกเมนูแกงร้อนๆ เพื่อมาทานคู่กับเมนูข้าวกะเพราก็ได้ แต่อย่าลืมว่าการตั้งราคาต้องผ่านการคำนวณอย่างเป็นเหตุเป็นผลตามต้นทุนที่ร้านตัวเองมีอยู่ และขณะเดียวกันก็ต้องมอบประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าที่มาใช้บริการด้วย

3.เพิ่มความ Extra ให้เมนู

ถ้าร้านอาหารปรับราคาเมนูอาหารให้สูงขึ้น แต่ลูกค้ายังได้อะไรแบบเดิมๆ ลูกค้าอาจรู้สึกว่าเงินที่จ่ายไปไม่คุ้มกับสิ่งที่ได้มา เพราะเหตุผลนี้เองเชฟเลยต้องจัดเต็มเรื่องความสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นการคิดเมนูที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้านให้มีความน่าสนใจ หรือมีการคิดเมนูใหม่ทุกๆ เดือนเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกอยากติดตาม และอยากลองชิม ถือเป็นการดึงดูดให้ลูกค้ากลับมาลองเมนูใหม่ที่ร้านพร้อมนำเสนอในแต่ละเดือนนั่นเอง

4.ปรับราคาบางเมนูเท่านั้น

นี่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้ร้านอาหารสามารถได้กำไรโดยไม่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าต้องจ่ายเยอะขึ้นในทุกๆ เมนู เช่น มีการปรับราคาเมนูขายดีของร้าน หรือจะเป็นการชาร์จราคาเครื่องดื่มพิเศษที่ร้านเสิร์ฟคู่กับเมนู เท่านี้ก็ช่วยเพิ่มยอดขาย และยังทำให้ลูกค้ารู้สึกสบายใจที่จะใช้บริการต่อไป

5.ไม่มองข้ามการสื่อสารที่จำเป็น

ร้านอาหารควรแสดงความใส่ใจลูกค้าด้วยการแจ้งอัตราการปรับราคาอาหารล่วงหน้า ลองคิดภาพดูว่าถ้าลูกค้ารู้ตอนจ่ายเงินหลังจากกินอาหารเรียบร้อยแล้วก็อาจจะทำให้พวกเขาไม่พอใจที่ไม่ได้มีโอกาสเลือกและพิจารณาก่อน ยิ่งสมัยนี้ลูกค้าสนใจในความโปร่งใส่ของการดำเนินธุรกิจ ร้านอาหารจึงควรมีการแจ้งข่าว ไม่ว่าจะผ่านโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งแปะป้ายประกาศง่ายๆ ที่หน้าร้านให้ชัด พร้อมแจ้งเหตุผลว่าทำไมจึงต้องปรับราคาอาหารขึ้น เพื่อแสดงความจริงใจ และให้ลูกค้ามีทางเลือกก่อนใช้บริการนั่นเอง

จะสังเกตได้ว่าการปรับราคาอาหาร ต้องคำนึงถึงลูกค้าเป็นสำคัญ เพราะการที่ลูกค้าเลือกใช้บริการในร้านใดร้านหนึ่งไม่ใช่เพราะอาหารอร่อยถูกปาก หรือราคาถูกเท่านั้น แต่ปัจจัยที่สำคัญไม่แพ้กันที่ดึงดูดลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำๆ คือการให้บริการที่ดีและการเอาใจใส่ด้วย เพียงแค่ร้านอาหารคำนึงถึงความรู้สึกของลูกค้าเมื่อจะปรับราคา พร้อมสื่อสารกับลูกค้าด้วยความใจจริง ก็เท่ากับว่าเป็นการเดินหมากที่ดีในการประกอบธุรกิจแล้ว

การปรับราคาอาหารขึ้นไม่ใช่เรื่องที่ร้านอาหารทำไม่ได้ แต่ก่อนจะลงมือปรับแผนราคาก็ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของร้านอาหารและลูกค้าไปพร้อมกัน เพื่อให้เกิดความพึงพอใจทั้งสองฝ่าย สิ่งที่สำคัญอีกอย่างสำหรับเจ้าของร้านอาหารคือการคุมต้นทุนที่มองไม่เห็น เช่น ค่าเดินทางและเวลาที่เสียไปจากการไปตลาดเอง หรือการซื้อวัตถุดิบมาแต่ไม่คุ้ม เพราะคัดแล้วยังมีบางส่วนที่เอามาทำอาหารไม่ได้ เรื่องนี้ freshket ช่วยร้านอาหารได้ เพราะเราจัดส่งให้ถึงร้าน ครบจบที่เดียวแบบไม่ต้องแวะหลายที่ แถมยังคัดตัดแต่งวัตถุดิบมาแล้ว มั่นใจได้ว่าซื้อมาเท่าไรก็ใช้ได้หมด คุ้มทุนแน่นอน

แค่นำไอเดียที่ freshket เสนอมาปรับใช้ให้เข้ากับสถานการณ์ร้าน พร้อมเลือกซื้อวัตถุดิบคุณภาพดี มั่นใจว่าคุ้มทุนแน่นอน ก็เป็นตัวช่วยให้ร้านอาหารฝ่าวิกฤตของแพงไปพร้อมๆ กับรักษาลูกค้าได้แล้ว

ใครที่รู้เรื่องเทคนิคการอัปเกรดร้านอาหารแล้ว แต่ยังไม่พอ! เพราะอยากรู้เทคนิคเจ๋งๆ เกี่ยวการทำอาหารและการจัดการธุรกิจจาก freshket อีก อ่านต่อได้ที่นี่เลย คลิก

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
copyschool.com
pptvhd36.com
score.org