freshket เฟรชเก็ต

FYI: For Your Inspiration

5 กิจกรรม Go Green ทำง่าย ร้านอาหารรักษ์โลกทำได้ชัวร์!

ปัจจุบันปัญหาโลกร้อน และวิกฤตมลพิษ มีความรุนแรงขึ้นทุกปี สภาพอากาศทั่วโลกก็แปรปรวนบ่อยครั้ง ส่งผลให้ผู้บริโภคเริ่มเบนความสนใจมายังสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่แสดงจุดยืนในการรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เทรนด์การสร้างธุรกิจร้านอาหารรักษ์โลกที่มีจุดยืนเกี่ยวกับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมจึงเกิดขึ้นมากมายเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคในปีที่ผ่านมา 

เมื่อผู้บริโภคจำนวนมากให้ความสนใจต่อปัญหาสิ่งแวดล้อม และอยากเป็นอีกหนึ่งแรงเพื่อช่วยพัฒนาสังคมให้ดีกว่า freshket เลยชวนร้านอาหารปรับภาพลักษณ์ให้เป็นมิตรกับลูกค้า โดยการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และมาทำกิจกรรมดีๆ เพื่อโลกของเรากัน! เพราะนอกจากจะดีต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาวแล้ว ยังดึงดูดใจผู้บริโภคให้มาใช้บริการ และยังสร้างคุณค่าและภาพลักษณ์เชิงบวกให้กับร้านอาหารและแบรนด์ของตัวเองได้อีกด้วย

ผลสำรวจเผยว่าผู้บริโภคมีความสนใจต่อร้านอาหารรักษ์โลกมากขึ้น

ผลสำรวจจาก Deliverect เกี่ยวกับมุมมองและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม โดยผู้เข้าร่วมทำแบบสอบถามกว่า 7,000 คนทั่วโลก มีผลลัพธ์ ดังนี้: 

  • 43% พร้อมจ่ายเงินเพิ่มในการซื้อบริการอาหารแบบ Take-Out ที่มีความยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม   
  • 73% อยากให้ร้านอาหารคำนวณปริมาณอาหารของแต่ละเมนูที่สามารถลด Food Waste ได้มากที่สุด 
  • 68% ต้องการให้ร้านอาหารที่มีบริการ Takeaway มีกฎหรือข้อควรระวังในร้านอาหารเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิด Food Waste 
  • 54% เลือกร้านอาหารที่มีบริการ Food Delivery แต่มีการลดใช้บรรจุภัณฑ์ที่ไม่จำเป็น 
  • 56% แสดงความพึงพอใจต่อร้านที่ใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มากกว่าบรรจุภัณฑ์แบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง  

จากผลสำรวจแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคมากกว่าครึ่งส่วนใหญ่ สนใจในผลิตภัณฑ์และบริการจากร้านอาหารที่มีคอนเซ็ปต์หรือไอเดียเกี่ยวข้องกับการรักษาสิ่งแวดล้อม และยินดีที่จะใช้บริการ หรือสั่งซื้อสินค้าจากร้านอาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ฉะนั้นหากร้านอาหารที่อยากเริ่มก้าวแรกในการเป็นร้านอาหารสาย Eco-Friendly ลองทำ 5 กิจกรรมทำตามได้ง่ายๆ ที่เฟรชเก็ตแนะนำด้านล่างนี้ได้เลย! 

ร้านอาหารรักษ์โลก ร้านอาหาร eco friendly ร้านอาหารรักษ์โลกทำยังไง กิจกรรมสำหรับร้านอาหารรักษ์โลก

5 กิจกรรมทำตามได้ง่ายๆ สำหรับร้านอาหารรักษ์โลก  

1. จัดสัปดาห์ “No Plastic” เป็นประจำทุกเดือน 

สำหรับร้านอาหารที่มีหน้าร้านที่ผู้บริโภคสามารถเข้ามานั่งดื่ม กินในร้านได้ สามารถจัดสัปดาห์ No-Plastic (ไม่ใช้พลาสติกเลย) หรือ Plastic Less (ใช้พลาสติกน้อย) เป็นประจำทุกเดือน ซึ่งหมายถึงร้านอาหารสามารถลดการใช้ภาชนะหรือบรรจุภัณฑ์ที่ประกอบไปด้วยพลาสติกในการเสิร์ฟลูกค้า เช่น ไม่ใช้แก้วน้ำ หรือตะเกียบที่ใช้แล้วทิ้ง หรืองดใช้หลอดพลาสติกในร้านอาหาร เป็นต้น ส่วนร้านอาหารที่มีบริการ Food Delivery ก็ควรพิจารณาในการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ใช้วัตถุดิบจากการเกษตรหรือธรรมชาติ (Biodegradable) ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม   

2. จัดส่วนลดกับมื้ออาหารที่ใช้วัตถุดิบที่ส่งผลกระทบน้อยต่อสิ่งแวดล้อม 

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการทำฟาร์มปศุสัตว์ หรือการทำเกษตรกรรมก็ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเหมือนกัน เพราะในกระบวนการปลูก เก็บ หรือแปรรูป สามารถปล่อยมลภาวะ รวมถึงทิ้งคาร์บอนฟรุตพรินต์ส่งผลกระทบต่อชั้นบรรยากาศโลกเราได้ ฉะนั้นเจ้าของร้านอาหารควรเลือกใช้วัตถุดิบที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย เช่น เต้าหู้ออร์แกนิก มะเขือเทศ มันฝรั่ง บล็อกโคลี่ หรือพยายามใช้วัตถุดิบที่สามารถใช้ทำอาหารได้หมดทุกส่วน เพื่อลดขยะให้ได้มากที่สุด 

เชฟประจำร้านสามารถสร้างสรรค์เมนูที่มีแต่วัตถุดิบเหล่านี้โดยเฉพาะ โดยจัดส่วนลดพิเศษ และติดเครื่องหมาย “Less Waste” เพื่อเป็นการดึงดูดลูกค้าสายกรีน ว่าหากเลือกบริโภคอาหารจานนี้ นอกจากจะช่วยให้ผู้บริโภคประหยัดค่าอาหารแล้ว ยังเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย 

3. บริจาควัตถุดิบอาหารที่ไม่ได้ใช้ให้กับโครงการต่างๆ หรือชุมชน

เป็นธรรมดาหากจะมีวัตถุดิบเหลือใช้ที่ทางร้านใช้ไม่ทัน ซึ่งในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น คำนวณมาแล้วว่าร้านอาหารสั่งของมาเพียงพอ แต่มีเหตุที่ทำให้ไม่ได้ใช้วัตถุดิบทั้งหมด ร้านอาหารเหล่านั้นก็สามารถนำวัตถุดิบที่ไม่ได้ใช้ไปบริจาคให้กลับชุมชนใกล้เคียง หรือนำไปแจกจ่ายให้กับโครงการต่างๆ ที่รับวัตถุดิบเหล่านี้ เพื่อสามารถนำไปทำอาหารแจกจ่ายต่อไป นอกจากจะไม่ต้องทิ้งวัตถุดิบอาหารให้เสียดายของแล้ว ก็ยังมีประโยชน์ต่อสังคมอีกด้วย

ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมาเป็น “วันอาหารโลก” freshket จับมือกับ “ครัวรักษ์อาหาร” เพื่อส่งต่อวัตถุดิบส่วนเกินให้ทีมอาสาสมัครนำไปทำเมนูอร่อยแจกให้ชุมชนที่ต้องการ เป็นการส่งเสริมแนวคิด “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ซึ่งเป็นแนวคิดหลักขององค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติในปี 2022 ใครสนใจก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดและรูปภาพบรรยากาศเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊กเฟรชเก็ต คลิก 

4. เลือกข้าวของเครื่องใช้ในร้านที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 

ของใช้ที่อยู่ในร้านมีผลอย่างมากในการช่วยประหยัดพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อมได้ เช่น การใช้หลอดไฟแบบ LED ประหยัดพลังงานน้อยกว่า หลอดอินแคนเดสเซนต์ หรือที่เราเรียกกันว่า หลอดไส้ กว่า 75% และมีอายุการใช้งานมากกว่า 25 เท่า นอกจากจะดีต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังช่วยประหยัดค่าไฟได้มากอีกด้วย หากต้องซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่ เพิ่มตัวเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ผ่านการรีไซเคิลมาแล้วในใจเพื่อประกอบการพิจารณา หรือจะพิมพ์รายการเมนูลงบนกระดาษรีไซเคิล เพื่อลดการใช้กระดาษ ก็ทำได้เหมือนกัน

5. DIY ทำผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร้านแบบไม่ใช้สารเคมี 

จริงๆ แล้วการทำน้ำยาทำความสะอาดเองนั้นง่ายกว่าที่คิดเยอะมากๆ แล้วใช้ส่วนประกอบที่หาได้ง่ายแสนง่าย แถมยังใช้เพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น 

เฟรชเก็ตมีสูตรน้ำยาทำความสะอาด มาให้ลองทำตามดู ดังนี้:

1. น้ำยาทำความสะอาดพื้น: เทน้ำอุ่น 5 ลิตรใส่ถังที่เตรียมไว้ จากนั้นผสมกับน้ำส้มสายชูครึ่งถ้วยตวง และใส่สบู่เหลวหรือน้ำยาล้างจานลงไป 2 ช้อนโต๊ะ (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้) และคนให้เข้ากัน แต่ถ้าหากเป็นพื้นในร้านอาหารเป็นพื้นหินลาย หรือหินอ่อน ไม่ต้องใช้น้ำส้มสายชู ใช้เพียงแค่น้ำอุ่นผสมกับสบู่เหลวหรือน้ำยาล้างจานก็เพียงพอ

2. น้ำยาเช็ดเฟอร์นิเจอร์: น้ำมันมะกอก 1 ถ้วยตวง ผสมกับน้ำมะนาวครึ่งถ้วยตวง สามารถเติมน้ำมันหอมระเหยลงไปได้ และคนให้เข้ากัน จากนั้นใส่ในภาชนะที่เตรียมเอาไว้

3. น้ำยาเช็ดกระจก: ผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำเปล่าให้สัดส่วนพอๆ กัน หากมีคราบเหนียว ให้ผสมสบู่เหลวลงไปเล็กน้อย จากนั้นใส่ในภาชนะที่เตรียมเอาไว้

4. น้ำยาทำความสะอาดเตาแก๊ส: น้ำส้มสายชู 1 ถ้วยตวง เบกกิ้งโซดา ครึ่งถ้วยตวง และน้ำยาล้างจาน 2 ช้อนโต๊ะ แล้วคนให้เข้ากัน จากนั้นใส่ในภาชนะที่เตรียมเอาไว้

5. น้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์: นำน้ำอุ่น 1 ถ้วยตวง น้ำส้มสายชู 1 ถ้วยตวง น้ำยาล้างจาน 2 ช้อนโต๊ะ และแอลกอฮอล์ ครึ่งถ้วยตวง แล้วผสมให้เข้ากัน จากนั้นใส่ในภาชนะที่เตรียมเอาไว้

ทั้งหมดเป็นเพียงตัวอย่างกิจกรรมเท่านั้น แต่ถ้าร้านอาหารร้านไหนอยากลองปรับเปลี่ยน หรือหาข้อมูลศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำร้านอาหารหรือทำธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เชื่อว่ามีอีกหลายอย่างที่สามารถทำได้ หรือปรับใช้ให้เข้ากับสถานการณ์ของร้านคุณได้แน่นอน เพราะการปรับภาพลักษณ์ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ก็เป็นอีกแรงดึงดูดใจให้ผู้บริโภคสายรักษ์โลกมาซื้อสินค้าและบริการ และยังเสริมให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นในแบรนด์ สร้าง Loyalty ให้กลับมาใช้บริการได้ซ้ำๆ ในอนาคตได้อีกด้วย 

หากอยากรู้เทคนิกเจ๋งๆ เกี่ยวการทำอาหารและการจัดการธุรกิจจาก freshket อีก อ่านต่อได้ที่นี่เลย คลิก 

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก:
energy.gov
foodnavigator.com
psasupply.com
restaurantware.com